"ใบเสร็จ เอกสารที่ประทับดวงตรา คนรับรองหนังสือสัญญาเหล่านี้ ถ้ามีเจตนาไม่ใช้คืน ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางได้กลับคืน"

บรรดาชาวจีนล้วนแต่พากันกล่าวเช่นนี้ นี่แสดงให้เห็นว่าเป็นขุนศึกที่ชำนาญการค้าตระหนักแจ้งในอุปนิสัยใจคอของคนเราเป็นอย่างดีแล้ว
ถ้าหากจะอาศัยเอกสารและรูปร่างเช่นนี้มาแสดงเป็นมิตร เมื่อนั้นย่อมเชื่อถือได้แล้ว ตามที่ทราบกันมาว่าการที่ชาวจีนเชื่อถือไว้ใจบุคคลหนึ่งอย่างจริงใจ ก็จะต้องสิ้นเวลาถึง 10 ปี แต่ยามใดที่ได้เชื่อถือไว้ใจบุคคลผู้นั้นแล้ว มิไยว่าจะเกิดสงครามหรือว่าฝ่ายตรงข้ามอยู่ในฐานะศัตรู หรือกลายเป็นประชาชนที่พ่ายแพ้สงคราม ต้องตกยากเข้าที่อับจน ... เพื่อความเป็นมิตรภาพและความเชื่อถือไว้ใจของเขา ก็ยังยินดียอมพลีชีวิตของตนได้ด้วย
ยามใดผู้ที่เขาเชื่อถือไว้ใจต้องผ่ายแพ้ล้มเหลวลง เมื่อนั้นเขาก็ได้แต่เพียงห่อไหล่ขึ้นแล้วบอกว่า
"สุดปัญญาแล้ว"
ถ้าหากเข้าใจว่าผู้ที่พ่ายแพ้ล้มเหลวเป็นความอับอายขายหน้าของตนเองพร้อมกับเจ็บแค้นใจที่ตนเชื่อถือไว้ใจที่ได้พ่ายแพ้ล้มเหลวลง มีแต่จะได้รับความอับอายขายหน้ายิ่งขึ้น คือถูกผู้ที่อยู่ใกล้เคียงโดยรอบดูหมิ่นเหยียดหยาม
ถ้าเช่นนั้นความไม่เชื่อถือไว้ใจกันมีส่วนที่ดีหรือไม่? เนื่องจากความสามัคคี ระหว่างชาวจีนด้วยกันมั่นคงแข็งเกร่งเหลือเกิน แม้ว่าไม่ได้กล่าวออกมา แต่การไม่รักษาสัจวาจาที่เชื่อถือก็จะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว แต่การไม่รักษาสัจวาจาความเชื่อครั้งเดียวเท่่านั้น มิใช่แต่จะประกอบกิจการค้า แม้ว่าการครองชีพ ก็ยังไม่สามารถดำรงต่อไปได้อีกแล้ว